การซื้อภัยเพิ่ม อันได้แก่ภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำท่วม ลูกเห็บ เดิมมีมาอยู่แล้ว และอัตราเบี้ยประกันไม่สูงมากนัก แต่หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปลายปี 2554 จึงทำให้ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย ที่มีต่อบริษัทประกันต่างประเทศสูงขึ้น จึงทำให้อัตราเบี้ยประกันสำหรับภัยธรรมชาติปรับขึ้นมา และมีการใส่เงื่อนไขของ Deduct หรือความเสียหายส่วนแรก ที่ให้ลูกค้าต้องรับผิดชอบเบื้องต้นก่อนด้วย
กรมธรรม์ประกันภัยเพิ่ม ภัยธรรมชาติ
ที่มา บริษัทประกันภัยเป็นผู้ขายโดยตรง โดยบริษัทประกันภัยไปซื้อความคุ้มครองมาจากบริษัทประกันภัยต่างประเทศ
ประเภทของ “ ภัยธรรมชาติ ” หมายถึง
ภัยลมพายุ
การประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ ได้ขยายความคุ้มครองถึงความสูญเสียหรือความ เสียหายต่อทรัพย์สินที่ได้เอาประกันภัยไว้อันเกิดขึ้นจากลมพายุ อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ต้องรับผิดในความสูญเสียหรือความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อมที่
1. เกิดจากคลื่นใต้น้ำ (Tidal Wave) และ/หรือ น้ำหนุน (High Water) และ/หรือน้ำที่ไหลล้น (Overflow) ไม่ว่าจะถูกพัดพามาโดยลมพายุหรือไม่ก็ตาม
2. เกิดขึ้นกับทรัพย์สินภายในตัวอาคารที่ได้เอาประกันภัยไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ เนื่องจาก
(ก) น้ำฝน หิมะ ทราย หรือฝุ่นละออง ทั้งนี้ไม่ว่าจะถูกพัดพามาโดยลมพายุหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่น้ำฝน หิมะ ทราย หรือฝุ่นละอองจะผ่านเข้าไปภายในอาคาร ตามร่องแตกร้าวหรือที่พังทลายของหลังคา หรือผนังอันเกิดจากกำลังของลมพายุโดยตรงเท่านั้น
(ข) น้ำจากเครื่องพ่นน้ำ หรือท่อน้ำอื่นๆ เว้นแต่อุปกรณ์หรือท่อน้ำดังกล่าวนี้เกิดเสียหายขึ้น เนื่องจากลมพายุโดยตรง
น้ำท่วม
คำว่า “น้ำท่วม” ในเอกสารแนบท้ายนี้หมายถึงน้ำ ซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติซึ่งจะเป็นทางน้ำธรรมชาติ หรือจะเป็นทางน้ำที่สร้างขึ้นก็ดี หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก หรือเกิดจากการท่วมของน้ำจากภายนอกของอาคารที่เอาประกันภัยไว้ หรืออาคารที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ฉบับนี้
แผ่นดินไหว
การประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ ได้ขยายความคุ้มครองถึงความสูญเสียหรือความ เสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิดและคลื่นใต้น้ำ (Tidal Wave) หรือน้ำหนุน (High Water) ซึ่งเป็นผลมาจากภูเขาไฟระเบิดโดยตรง
ทุนประกันที่สามารถซื้อได้
แตกต่างกันตามบริษัทประกันภัย
• บางบริษัท สงวนสิทธิ์ ที่จะไม่ขายภัยธรรมชาติ
• บางบริษัทกำหนดให้ซื้อ Sub Limit ได้เพียง 200,000 – 500,000 บาท
• บางบริษัทกำหนดให้ซื้อได้ไม่เกิน 10% ของทุนประกันภัย
อัตราเบี้ยประกันภัย ขึ้นอยู่กับต้นทุนของบริษัทประกันภัย
• ภัยลมพายุ อัตราเบี้ยประกันภัย มีตั้งแต่ 0.2 – 0.5 %
• ภัยแผ่นดินไหว อัตราเบี้ยประกันภัย มีตั้งแต่ 0.2 – 0.5 %
• ภัยน้ำท่วม อัตราเบี้ยประกันภัย มีตั้งแต่ 2 – 3 %
ประเด็นการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
1. สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้แม้ไม่มีการประกาศว่าเป็นภัยพิบัติ
2. มีความเสียหายส่วนแรก โดยขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัยว่าจะเป็นเท่าใด
*** อ่านเพิ่มเติม สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ระหว่างกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ และ ภัยเพิ่มภัยธรรมชาติ
|