ในเรื่องของการประกันรถยนต์ หลายๆครั้งที่ คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไม บริษัทประกันภัย ต้องมีการเรียกเก็บเงินจากคุณสำหรับค่าใช้จ่ายในอุบัติเหตุนั้นๆด้วย ในกรณีของการประกันรถยนต์นั้น มีค่าใช้จ่ายที่คุณต้องร่วมจ่ายในการเคลม อยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
- ความรับผิดส่วนแรก ( Deductible ) กรณีนี้เป็นเรื่องที่ผู้เอาประกันภัยสมัครใจยินยอมที่จะร่วมจ่ายค่าเสียหายกับบริษัทประกันภัย ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ และ รถของเราเป็นฝ่ายผิด เช่นอาจกำหนดว่า 2,000 บาท 3,000 บาท ….
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ตัวอย่างเช่น ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ประเภท 1 ของอัธยา ระบุว่า มีความรับผิดส่วนแรก 2,000 บาท ในความคุ้มครองของตัวรถยนต์
ปรากฏว่า วันหนึ่งนายอัธยา ขับรถไปเบียดเสาไฟฟ้า ไฟหน้าซ้ายแตก และมีความเสียหายที่กันชนหน้าด้ายซ้าย รวมความเสียหายทั้งหมดประมาณ 8,500 บาท ในกรณีนี้ นายอัธยา ก็ต้องมีส่วนร่วมจ่าย 2,000 บาท บริษัทประกันจ่าย 6,500 บาท ที่เป็นเช่นนี้เพราะนายอัธยา ยินยอมให้มีการระบุความรับผิดส่วนแรกในกรมธรรม์นั่นเอง
แล้วทำไมถึงต้องระบุ ในเมื่อเห็นอยู่ว่าทำให้คนที่ทำประกันเสียเปรียบ ?
เหตุผลก็คือ การระบุความรับผิดส่วนแรก มีผลให้เบี้ยประกันภัยลดลงครับ หลายๆคนที่เขามั่นใจว่า ฝีมือการขับรถเขาดี ไม่ชนแน่นอน เขาก็เลยระบุ เพื่อจะได้จ่ายเบี้ยถูกๆ ครับ แต่ผมให้ข้อสังเกตนิดนึงนะครับ ว่า ความรับผิดส่วนแรกนี้ ต้องจ่ายทุกครั้งที่เกิดเหตุและเป็นฝ่ายผิดนะครับ ถ้าปีนั้น คุณอัธยา โชคร้ายชนไป 3 ครั้งและผิด ทุกครั้ง ก็ต้องเสียเงินรวม 6,000 บาทนะครับ ต้องชั่งน้ำหนักเอาว่าคุ้มไหมกับเบี้ยประกันที่ลดลงมา
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมขอให้ระวัง ก็คือบางครั้งมีคนติดต่อเรามาเพื่อขายประกันทางโทรศัพท์ แล้วบอกว่าได้เบี้ยประกันพิเศษราคาถูกมาก ให้ระวังนะครับ ว่าเขาแอบใส่ความรับผิดส่วนแรกให้กับเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวไหม เพราะมีหลายครั้งที่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีเคลมครับ
- ค่าใช้จ่ายส่วนร่วม ( Excess ) เป็นส่วนที่ผู้ทำประกันต้องจ่ายเพราะเข้าเงื่อนไขดังนี้
- สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
โดยทางบริษัทประกันภัย จะจ่ายความเสียหายทั้งหมดให้กับคู่กรณีก่อน แล้วจึงมาเรียกเก็บคืนจากเราอีกทีครับ
- สำหรับความเสียหายต่อรถยนต์ คันที่เอาประกันภัย
- 1,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายอันไม่ได้เกิดจากการชน หรือ การคว่ำ อันนี้มีเคสเยอะ ส่วนใหญ่ถ้ามีการเคลมสีรอบคันก็จะเข้าเงื่อนไขนี้ โดยสามารถอ่านเพิ่มได้จาก
- 1,000 บาท กรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยได้ว่าคู่กรณีคือใคร
- 6,000 บาทแรกต่อความเสียหายของรถยนต์ ในกรณีที่กรมธรรม์มีการระบุชื่อผู้ขับขี่ แต่ปรากฏว่าขณะเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์
- ส่วนร่วมในกรณีที่มีการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ที่ต้องมีการเปลี่ยนปกติตามอายุงาน เช่น ยางรถยนต์ ซึ่งปกติจะมีการเปลี่ยนทุกๆ 2 – 3 ปีอยู่แล้ว ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุแล้วมีความเสียหายของยาง ทำให้ต้องเปลี่ยนยาง ในกรณีทางประกันจะคิดส่วนร่วม 50% ของราคาอะไหล่ที่เปลี่ยน นอกเหนือจากยางแล้วก็จะมี ของเหลวต่างๆ ที่ใช้กับเครื่องยนต์ และ อื่นๆ…
- กรณีประกันเป็นเบี้ยซ่อมอู่ แต่ไปใช้บริการศูนย์รถในการซ่อมแซม ในกรณีนี้จะเสียส่วนร่วม 30%
ทั้งหมดนี้คือภาพรวมของเรื่องส่วนร่วม ในการเคลมประกันรถยนต์ สำหรับผู้ใดที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ก็คงเข้าใจมากขึ้นในเรื่องที่มาที่ไป สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเจอ ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์นะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : http://www.kstronginsure.com/read/13382
|